การลดการใช้พลังงานในบ้านและธุรกิจไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าใช้จ่าย แต่ยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนความยั่งยืนอย่างแท้จริง การใช้เทคนิคง่ายๆ ต่อไปนี้สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีได้อย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม:
1. เปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED หลอดไฟ LED ประหยัดพลังงานได้ถึง 80% และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้เหมาะสำหรับทั้งบ้านและธุรกิจ ช่วยลดค่าไฟและลดจำนวนขยะอิเล็กทรอนิกส์จากการเปลี่ยนหลอดไฟบ่อยๆ
2. ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้ อุปกรณ์หลายอย่างยังคงใช้พลังงานเมื่อเสียบปลั๊กอยู่ เรียกว่า “พลังงานแฝง” เช่น เครื่องชงกาแฟ ทีวี และเครื่องชาร์จโทรศัพท์ การถอดปลั๊กอุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้จะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้อย่างมาก
3. ตั้งอุณหภูมิแอร์ที่ 25-26 องศา การตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ทำให้ลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าในระยะยาวและทำให้เครื่องปรับอากาศมีอายุการใช้งานนานขึ้น
4. ใช้แสงธรรมชาติให้มากที่สุด ออกแบบพื้นที่ให้แสงธรรมชาติเข้าถึงได้ดีในเวลากลางวันโดยเปิดม่านหรือเพิ่มหน้าต่าง ซึ่งจะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าจากหลอดไฟในบ้านและสำนักงาน
5. ติดตั้งฉนวนกันความร้อน ฉนวนกันความร้อนช่วยลดการสูญเสียพลังงานความเย็นและความร้อน จึงทำให้ไม่ต้องใช้เครื่องทำความเย็นหรือเครื่องทำความร้อนหนัก ช่วยลดค่าไฟฟ้าและรักษาอุณหภูมิภายในได้ดีขึ้น
6. เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดพลังงาน เช่น เบอร์ 5 ซึ่งใช้พลังงานน้อยกว่าอุปกรณ์ทั่วไป การลงทุนในอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานจะช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7. สร้างวัฒนธรรมการประหยัดพลังงานในองค์กร โดยกระตุ้นให้พนักงานมีส่วนร่วมในการประหยัดพลังงาน เช่น ปิดคอมพิวเตอร์ ปิดไฟในพื้นที่ที่ไม่ใช้งาน และตระหนักถึงความสำคัญของการประหยัดพลังงานในชีวิตประจำวัน
8. ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ในกรณีที่มีงบประมาณ สามารถลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตพลังงานใช้เองในบ้านหรือธุรกิจ ช่วยลดการพึ่งพาพลังงานจากแหล่งอื่นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
การนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ในบ้านและธุรกิจจะช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและมีส่วนร่วมในการสร้างความยั่งยืนในสังคม
